Iceland (ไอซ์แลนด์) หรือสาธารณรัฐไอซ์แลนด์เป็นเกาะที่อยู่ใต้เส้นอาร์กติก เซอร์เคิล (Arctic Circle) ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก อากาศค่อนข้างหนาวเย็นตลอดปีแม้กระทั่งฤดูร้อน ในฤดูหนาวช่วงปลายปี-ต้นปีจะมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติซึ่งเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนประเทศเล็กๆ แห่งนี้ นั่นก็คือ 'ออโรร่า' หรือแสงเหนือนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นช่วงเวลาดีที่จะได้ชมความงามของถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งสามารถเข้าชมได้แค่ช่วงนี้ของปีเท่านั้น

   นอกจากการตามล่าแสงเหนือซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยว และชมถ้ำน้ำแข็งแล้ว ที่ไอซ์แลนด์ยังมีน้ำตกสวยงามอีกมากมายที่เป็น Landmark ของประเทศ รวมไปถึงการชมหาดทรายสีดำ และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการแช่บ่อน้ำร้อนที่บลูลากูนเพื่อความผ่อนคลายของร่างกายอีกด้วย

 

***เดือนตุลาคมเป็นช่วงรอยต่อใบไม้เปลี่ยนสีสู่ฤดูหนาว อุณหภูมิสูงสุดที่ 5 องศา และต่ำสุดที่ -5 องศา***

​

'We will take you around the world , open your eyes wide by your own walk'

​

​

>>> รายละเอียดทริป <<< 

​

25.12.2023 l Day 0 : BKK > KEF

            เวลา 21.30 น. พบกันที่ท่านอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ที่เค้าท์เตอร์ Thai airway ไฟล์ทบิน TG950 เวลา 00.30 น. เพื่อออกเดินทางไปยังสนามบินท่าอากาศยานเรยาวิก เคฟลาวิก ประเทศไอซ์แลนด์

​

26.12.2023 l Day 1 : BKK > KEF

            เครื่องลงที่สนามบินนานาชาติโคเปนเฮเก้นในตอนเช้า  รอต่อเครื่อง1ชั่วโมง เพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบิน Keflavik เมื่อไปถึงรอประสานงานรับรถเช่าเพื่อเดินทางจากสนามบินไปค้างคืนที่ Reykjavik เมืองหลวงของไอซ์แลนด์(เดินทาง1ชั่วโมง)

           โดยวันแรกจะเป็นการปรับตัวกับสภาพอากาศและภูมิประเทศในวันแรก  เยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง ถ่ายภาพโบสถ์  Hallgrimskirkja โบสถ์ทรงจรวดที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง

​

27.12.2023  l Day 2 : KEF > Reykjavik > Hallgrimskirkja

           ทานข้าวเช้าที่โรงแรม ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Solfar of Sun voyager งานศิลปะโครงเหล็กที่ทำเลียนแบบเรือของไวกิ้ง จากนั้นเดินเที่ยวจุดต่างๆในเมือง 1 day trip ใน Reykjavik

           ช่วงบ่ายจะพาสมาชิกไปแช่น้ำร้อนที่ Blue lagoonเพื่อผ่อนคลายจากอากาศเย็น (เดินทาง1ชั่วโมง) และกลับมาพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย

​

28.12.2023  l Day 3 :  Balck church > Grundarfjörður > Kirkjufell

          รับประทานอาหารเช้า เช็คเอ้าท์และเดินทางไปที่เมือง Grundarfjörður(เดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง) แวะจอดรถบริเวณจุดจอดเพื่อถ่ายภาพวิวระหว่างทาง แวะถ่ายภาพที่โบสถ์ดำที่มีชื่อเสียง Buðir ,black church และชมแสงเย็นที่ Kirkjufell ภูเขารูปกรวยที่โด่งดังที่สุดของประเทศไอซแลนด์ฝั่งตะวันตก จากนั้นเชคอินเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน

​

29.12.2023  l Day 4 : Kirkjufell Sunrise > Golden circle

          ทานข้าวเช้าและเชคเอ้าท์โรงแรม จากนั้นเดินทางไปที่ golden circle(เดินทาง 3 ชั่วโมง) แวะที่น้ำตก Gullfoss น้ำตกขนาดใหญ่ทีไหลลงระหว่างกลางรอยแยกของเปลือกโลก จากนั้นไปชมแสงเย็นที่จุดชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ Geysir ซึ่งน้ำพุจะปะทุตัวพุ่งขึ้นมาทุกๆ 3-5นาที เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

​

30.12.2023 l Day 5 : Geysir > Vik

          ทานอาหารเช้าและเชคเอ้าท์ จากนั้นพาท่านไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่น้ำตกสีฟ้า Bruarfoss น้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไอซแลนด์ (เดินเท้าไปกลับประมาณ 2ชั่วโมง)

        ช่วงบ่ายเดินทางไปที่เมือง Vik (เดินทาง 2 ชั่วโมง) ระหว่างทางแวะถ่ายแสงเย็นที่น้ำตก Seljalandsfoss น้ำตกขนาดใหญ่ที่สามารถเดินอ้อมไปข้างหลังน้ำตกได้ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้นด้วย) จากนั้นเชคอินเข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

​

31.12.2023 l Day 6 : Vik > Black beach > Jokulsarlon 

          ทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเชคเอ้าท์ และเดินทางไปถ่ายภาพแสงเช้าที่ Reynisfjara beach หาดทรายดำกับแท่งหินริมผาที่โด่งดังที่แห่งหนึ่งของไอซแลนด์ แวะที่จุดชมวิวริมผา Dyrholaey และถ่ายภาพที่โบสถ์ประจำเมือง Vik

          เดินทางประมาณ3ชั่วโมง เพื่อไปถ่ายแสงเย็นที่ Jokulsalon lagoon ทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีก้อนน้ำแข็งลอยอยู่เป็นจำนวนมาก และเชคอินเข้าที่พัก

​

01.01.2024  l Day 7 : Diamond beach > Ice cave > Vik

       ทานข้าวเช้าและเช็คเอ้าท์ และออกไปถ่ายรูปแสงเช้าที่ Diamond beach หาดทรายที่มีก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากมาเกยตามแนวหาด จากนั้นจึงไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็ง Ice cave tour โดยเราจะต้องเปลี่ยนไปใช้รถขนาดใหญ่เพ่อเข้าไปยังด้านในถ้ำ (ใช้เวลารวมเดินทางในถ้ำประมาณ 3 ชั่วโมง)

        จากนั้นมุ่งหน้าไปที่เมือง Höfn (เดินทาง 1 ชั่วโมง) เก็บของเข้าที่พัก และถ่ายแสงเย็นที่ Vesturhorn แนวเทือกเขาริมทะเลที่อยู่ตะวันออกทีสุดของเกาะ จุดหมายที่ช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายรูปจะต้องมาให้ได้ (เดินทาง 15 นาที)

​

02.01.2024  l Day 8 : Skogar > Reykjavik > Blue lagoon

       ทานข้าวเช้าและเช้คเอ้าท์โรงแรม ไปถ่ายแสงเช้าที่ Planewrek จุดชมวิวเครื่องบินร้างที่ตกอยู่กลางทะเลทรายสีดำที่กว้างขวางสุดตา (นั่งรถบัสเข้าไป) จากนั้นจึงกลับเข้าเมืองเรยาวิก(เดินทาง2ชั่วโมง)

         ระหว่างทาง ถ้าสามารถเข้าได้ จะพาทุกท่านไปแวะไปตัวเปียกที่น้ำตก Gljufrabul น้ำตกลับในช่องเขาที่ไหลลงมาจากข้างบน  ก่อนเดินทางเข้าพักที่โรงแรมใกล้สนามบิน และเตรียมตัวเดินทางกลับในตอนรุ่งเช้า

​

03.01.2023  l Day 09 : KEF > BKK

          05.15 เชคเอ้าท์จากที่พักออกเดินทางแต่เช้าไปยังสนามบิน KEF เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย และกลับไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิในตอนเช้าของวันที่ 2 มกราคม 2566

​

04.01.2024  l Day 10 :  BKK

           เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

​

*หมายเหตุ: โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม และสภาพอากาศ

 

อัตราบริการนี้รวม:

• ค่าโรงแรมที่พัก และอาหารเช้ามื้อ จำนวน 8 คืน​

      (กรณีต้องการพักเดี่ยวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 40,000 บาท)​

• ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับระหว่างประเทศ (กรุงเทพ-ไอซ์แลนด์)

      *กรุณารอแจ้งยืนยันการเดินทางจากทีมงาน ก่อนซื้อตั๋วเครื่องบิน

• ค่ายื่นวีซ่าเชงเก้น (ราวๆ 3,100-3,400 บาท)

• การเดินทางภายในประเทศไอซแลนด์ และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ 

• ค่าเข้า Ice Cave 

• ค่าเข้า Blue Lagoon 

• บริการถ่ายภาพและสอนการถ่ายภาพตลอดการเดินทาง

​

ค่าบริการนี้ไม่รวม:​

​​

 

• ค่าประกันการเดินทางสำหรับวีซ่าเชงเก้น

• ค่าอาหารกลางวันและเย็น (อยู่ที่วันละ 1,000 – 2,500 บาท)

• ค่าทิปพนักงานบริการ (ถ้ามี)

• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือรายการที่ระบุ เช่น ค่า sim card ค่าเครื่องดื่ม มินิบาร์ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น

• เหตุฉุกเฉินที่ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า

​

​

​

​